วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ความก้วหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศ
- รูปแบบเทคโนโลยีสารสนเทศในปัจจุบัน
-พฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
-การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศกับการเรียนการสอน

รูปแบบเทคโนโลยีสารสนเทศในปัจจุบัน

เทคโนโลยีสารสนเทศสามารถจำแนกตามลักษณะการใช้งานได้เป็น 6 รูปแบบ ดังต่อไปนี้ คือ
1.เทคโนโลยีที่ใช้ในการเก็บข้อมูล เช่น ดาวเทียม ถ่ายภาพทางอากาศ กล้องดิจิทัล กล้องวีดิทัศน์ เครื่องเอกซเรย์
2.เทคโนโลยีที่ใช้ในการบันทึกข้อมูล เป็นสื่อบันทึกข้อมูลต่างๆ เช่น เทปแม่เหล็ก จานแม่เหล็ก จานแสงหรือจานเลเซอร์ บัตรเอทีเอ็ม
3เทคโนโลยีที่ใช้ในการประมวลผลข้อมูล ได้แก่ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ทั้งฮาร์ตแวร์ และ ซอฟต์แวร์
4.เทคโนโลยีที่ใช้ในการแสดงผลข้อมูล เช่น เคร่ื่องพิมพ์ จอภาพ พลอดเตอร์ ฯลฯ
5.เทครโนโลยีที่ใช้ในการจัดทำสำเนาเอกสาร เช่น เครื่องถ่านเอกสาร เครื่องถ่ายในบัตรฟิล์ม
6.เทคโนโลยีสำหรับการถ่ายทอดหือสื่อสารข้อมูล ได้แก่ ระบบโทรศัพท์คมนาคมต่างๆ เช่น โทรทัศน์ วิทยุกระจายเสัยง โทรเลข เทเล็กซ์ และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ทั้งระยะไกล
ตัวอย่างการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
มีการนำเอาเทคโนโลยีสารสนเทศสารสนเทศมาใช้ในรูปแบบต่างๆทั้งในทางธุรกิจ และทางการศึกษา ดังตัวอย่างเช่น
-ระบบเอทีเอ็ม
-การบริการและการทำธุรกรรมบนอินเทอร์เน็ต
-การลงทะเบียนเรียน

พฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศคืออะไร  

การแสดงออกทางความคิดและความรู้สึกในการใช้รูปแบบของเทคโนโลยีทุกประเภทที่นำมาประยุกต์ในกระบวนการจัดหา จัดเก็บ สร้างและเผยแพร่สารสนเทศในรูปแบบต่างๆ ได้แก่ ภาพ ข้อมูล ข้อความ หรือ ตัวอักษร ตัวเลขและ ภาพเครื่อนไหว เป็นต้น
การใช้อินเตอร์เน็ต
งานวิจัยเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศของนักศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาพบว่า
นักศึกษาส่วนใหญ่ใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อความบันเทิง เนื่องจากเห็นว่ามีความสะดวกในการติดต่อสื่อสารกับผู้อื่น ในขณะที่การใช้อินเตอร์เน็ตของนักศึกษาในระดับอุดมศึกษาส่วนใหญ่ใช้เพื่อการรรติดตามข่าวสารของสถานศึกษา
ใช้อินเตอร์เน็ต ทำอะไรได้บ้าง
งานวิจัยชี้ว่า นักศึกษาใช้อินเตอร์เน็ตในการสนทนากับเพื่อนๆและการค้นข้อมูลจากห้องสมุด
นอกจากนี้งานวิจัยยังชี้ว่า นักศึกษาส่วนใหญ่ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศรูปแบบต่างๆเพื่อเพิ่มพูนความรู้และประกอบการทำรายงาน
สถานที่ที่มีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
งานวิจัยพบว่า นักศึกษาส่วนใหญ่ใช้คอมพวเคอร์ที่บ้าน และมีการใช้อินเตอร์เน็ตที่ห้องาสมุดของสถาบัน
นักศึกษาส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีการใช้หรือมีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศน้อย ในรูปแบบไหนบ้าง
งานวิจัยชี้ว่า นักศึกษามีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเหล่านี้น้อย ได้แก่ ฐานข้ออมูลอิเล็กทรอนิกส์ การเรียนรู้แบบออนไลน์หรือ e-Learning วีดิทัศน์ตามอัธยาศัย (video on Demand) หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ และบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน

การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศกับการเรียนการสอน
 
-การเรียนรู้แบบออนไลน์ e-Learning
-บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน Computer Assisted Instruction CAI
-วีดิทัศน์ตามอ้ธยาศัย Video on Demand
-หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ e-books
การเรียนรู้แบบออนไลน์ (e-Learning)เป็นการศึกษา เรียนรู้ผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์อินเทอร์เน็ต (Internet) หรืออินทราเน็ต(Intranet) เป็นการเรียนรู้ด้วยตัวเอง ตามความสามารถและความสนใจของตน โดยเนื้อหาของบทเรียนซึ่งประกอบด้วย ข้อความ รูปภาพเสียง วิดีโอและมัลติมีเดียอื่นๆ จะถูกส่งไปยังเรียนผ่านเว็บเบราว์เซอร์(Web Browser) โดยผู้เรียนผู้สอนและเพื่อนร่วมชั้นเรียนทุกคน สามารถติดต่อปรึกษา แลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันได้เช่นเดียวกับการเรียนในชั้นเรียนปกติการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศกับการเรียนการสอนโดยอาศัยเครื่องมือการติดต่อสื่อสารที่ทันสมัย สำหรับทุกคน โดยผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ทุกเวลา และทุกสถานที่ (Learning for all : anyone, anywhere and anytime) การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศกับการเรียนการสอนบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer Assisted Instruction - CAI คือบทเรียนคอมพิวเตอร์ซึ่งนำเสนอสารสนเทศที่ได้ผ่านกระบวนการสร้างและพิจารณามาเป็นอย่างดี โดยมีเนื้อหาวิชาหรือสารสนเทศ แบบฝึกหัด การทดสอบและการให้ข้อมูลป้อนกลับให้ผู้เรียนได้ตอบสนองต่อบทเรียนได้ตามระดับความสามารถของตนเอง เนื้อหาวิชาที่นำเสนอจะอยู่ในรูปมัลติมีเดีย ซึ่งประกอบด้วย อักษร รูปภาพ เสียง และ/หรือ ทั้งภาพและเสียง ซึ่งมีพื้นฐานมาจากการนำหลักการเบื้องต้นทางจิตวิทยาการเรียนรู้มาใช้ในการออกแบบโดยอาศัยพฤติกรรมการเรียนรู้ (Learning Behavior) ทฤษฎีการเสริมแรง (Reinforcement Theory) ทฤษฎีการวางเงื่อนไขปฏิบัติ (Operant Conditioning Theory) ซึ่งถือว่าความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งเร้ากับการตอบสนองและการเสริมแรงเป็นสิ่งสำคัญ โดยมีจุดมุ่งหมายนำผู้เรียนไปสู่การเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพซึ่งอาศัยการสอนที่มีการวางโปรแกรมไว้ล่วงหน้า เป็นการให้ผู้เรียนมีโอกาสเรียนรู้ได้ด้วยตนเองและมีผลย้อนกลับทันทีและเรียนรู้ไปทีละขั้นตอนอย่างเหมาะสมตามความต้องการและความสามารถของตน วีดิทัศน์ตามอัธยาศัย (Video on Demand - VOD)คือ ระบบการเรียกดูภาพยนตร์ตามสั่งที่จะอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกดูภาพยนตร์หรือข้อมูลภาพเคลื่อนไหวพร้อมเสียงได้ตามต้องการ ตามสโลแกนที่ว่า “To view what one wants, when one wants”. โดยสามารถใช้งานนี้ได้จากเครือข่ายสื่อสาร (Telecommunications Networks) ผู้ใช้งาน ซึ่งอยู่หน้าเครื่องลูกข่าย (Video Client) สามารถเรียกดูข้อมูลที่เป็นภาพเคลื่อนไหวได้ทุกเมื่อตามต้องการ และสามารถควบคุมข้อมูลวิดีโอนั้น ๆ โดยสามารถย้อนกลั(Rewind)หรือกรอไปข้างหน้า (Forward) หรือหยุดชั่วคราว(pause)ได้เปรียบเสมือนการดูวิดีโอที่บ้านนั่นเองทั้งนี้เครื่องคอมพิวเตอร์ลูกข่ายไม่จำเป็นต้องดูข้อมูลเดียวกันกล่าวคือสามารถดูภาพยนตร์เรื่องเดียวกัน หรือต่างกันก็ได้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-books )คือหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถอ่านได้ทางอินเทอร์เน็ต โดยมีเครื่องมือที่จำเป็นในการอ่านหนังสือประเภทนี้คือ ฮาร์ดแวร์ประเภทเครื่องคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พกพาอื่นๆ พร้อมทั้งติดตั้งระบบปฏิบัติการหรือซอฟต์แวร์ที่ใช้อ่านข้อความต่างๆ ตัวอย่างเช่น ออร์แกไนเซอร์แบบพกพา พีดีเอ เป็นต้นส่วนการดึงข้อมูล e-books ซึ่งจะอยู่บนเว็บไซต์ที่ให้บริการทางด้านนี้มาอ่านก็จะใช้วิธีการดาวน์โหลดผ่านทางอินเทอร์เน็ตเป็นส่วนใหญ่ ลักษณะไฟล์ของ e-books หากนักเขียนหรือสำนักพิมพ์ต้องการสร้าง e -books จะสามารถเลือกได้สี่รูปแบบ คือ Hyper Text Markup Language (HTML), Portable Document Format (PDF), Peanut Markup Language (PML) และ Extensive Markup Language (XML)ห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ (e-library)เป็นแหล่งความรู้ที่บันทึกข้อมูลไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ายและให้บริการสารสนเทศทางอิเล็กทรอนิกส์หรือผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตคุณลักษณะที่สำคัญของห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ มีดังนี้ คือ1. การจัดการทรัพยากรสารสนเทศด้วยคอมพิวเตอร์2. ความสามารถในการเข้าถึงสารสนเทศโดยทางอิเล็กทรอนิกส์3. บรรณารักษ์หรือบุคลากรของห้องสมุดสามารถแทรกการติดต่อระหว่างผู้ใช้กับห้องสมุดได้ เพื่อช่วยเหลือผู้ใช้ได้โดยทางอิเล็กทรอนิกส์4. ความสามารถในการจัดเก็บ รวบรวมและนำส่งสารสนเทศสู่ผู้ใช้โดยทางอิเล็กทรอนิกส์

วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

วิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารสำหรับครู
Information and Communication Technology for Teachers
รหัส PC 54504  3(2-2-5)

คำอธิบายรายวิชา
     
              ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เช่น ไมโครคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ระบบการสื่อสารข้อมูล ระบบเน็ตเวิร์ก ระบบซอฟแวร์ การจัดการทรัพยาการสารสนเทศ เครื่องมือการเข้าถึงสารสนเทศ ทักษะการเข้าถึงสารสนเทศ ฐานข้อมูลสารสนเทศ ห้องสมุดอิเล็คโทนิกและการอ้างอิง ฝึกปฏิบัติการ สามารถใช้คอมพิวเตอร์ขั้นพื้นฐานและใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารได้อย่างเหมาะสม
                             ♦  สารสนเทศ   ตรงกับคำในภาษาอังกฤษว่า Information หมายถึงความรู้ที่ไก้จากการค้นคว้าสารสนเทศ เป็นความรู้และข่าวสารที่สำคัญที่มีลักษณะพิเศษ ทั้งด้านการได้มาและประโยชน์ในการนำไปใช้ปฏิบัติ
                             ♦สารสนเทศ   มีความหมายตามที่ได้มีการให้คำจำกัดความที่ไกล้เคียงกัน    ดังนี้
สารสนเทศ  หมายถึงทั้งด้านปริมาณและด้านคุณภาพที่ประมวลจัดหมวดหมู่เปรียบเทียบ และวิเคราะห์แล้วสามารถนำมาใช้ได้ หรือนำมาประกอบพิจารณาได้สะดวกกว่าและง่ายกว่า
เทศโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารคืออะไร
เทศโนโลยีสารสนเทศ หรือไอที(IT)
เป็นโนโลยีที่มีความสำคัญต่อสังคมในปัจจุบันมีความเกี่ยวข้องกับการจัดเก็บ การประมวลผลและการแสดงผลสารสนเทศ
องค์ประกอบหลักของเทคโนโลยีสารสนเทศ
เทคโนโลยีสารสนเทศ ประกอบด้วย องค์ประกอบหลัก 2 ส่วน คือ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีคมนาคม
1.เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์จัดเป็นเทคโนโลยีหลักของเทคโนโลยีสารสนเทศในยุคปัจจุบันเนื่องจากคอมพิวเตอร์มีคุณสมบัติครบถ้วนทั้งด้านการบันทึก การจัดเก็บ การประมาลผล การแสดงผล และการสืบค้นหาข้อมูลสารสนเทศเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์แบ่งเป็นเทคโนโลโยีย่อยที่สำคัญได้ 2 ส่วน คือเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์และเทคโนโลยยีซอฟแวร์
1.เทคโนโลยีฮาร์ตแวร์ื หมายถึง อุปกรณ์ทุักชนิดที่ประกอบขึ้นเป็นตัวเครื่อง คอมพิวเตอร์ อุปกรณืที่ต่อพ่วงเพื่อเชื่อมโยงจำแนกตามหน้าที่การทำงานออกเป็น 4 ส่วน คือ
1.หน่วยรับข้อมูล
2.หน่วยประมวลผลกลาง
3.หน่วยแสดงผลข้อมูล (Output Unit)
4.หน่วยควาทมจำสำรอง (Secondary Sc)
2.เทคโนโลยีซอฟแวร์ (Software)
หมายถึง โปรแกรมหรือชุดคำสั่งที่ทำหน้าที่สั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามที่ผู้ใช้ต้องการ
ซอฟแวร์คอมพิวเตอร์แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
1.ซอฟแวร์ระบบ (System Software)
หรือชุดคำสั่งที่ทำหน้าที่สั่งให้คอมพิวเตอร์ทั้งฮาร์ตแวร์และซอฟแวร์ทำงานตามคำสั่ง
2.ซอฟแวร์ประยุกต๋ (Application Software) คือวุดคำสั่งที่ผู้ใช้ส่งเข้าสู้เครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานตามที่ผู้ใช้ต้องการ
2.เทคโนโลยีการสื่อสารโทรคมนาคม
หมายถึง เทคโนโลยีที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารกันทั่วไป เช่น ระบบโทรศัพท์ ระบบดาวเทียม ระบบเครือข่ายเคเบิล และ ระบบสื่อสารอื่นๆ ที่ใช้ในการติคต่อสื่อสารกัน
♦ความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ
-แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่4(2520-2524) การมีส่วนร่วมของสารสนเทศเพื่อการศึกษา
-มีการจัดตั้งศูนย์ประสานงานและปฏบัติการของระบบสารสนเทศเพื่อการศึกษาขึ้น
-ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่8 ก็ได้มีการเห็นความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาขึ้น
-ใบแผนฯ9 มีการจัดทำแผนหลักเพื่อพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการศึกษา
♦แผนพัฒนาฯข้างต้นทำให้เทคโนโลยีสารสนเทศความสำคัญต่อวงการศึกษาของประเทศไทยมากขึ้น จะทำให้การศึกษาของชาติมีความเท่าเทียมทั่วถึง มึคุณภาพ และมีความต่อเนื่อง ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างคุ้มค่า
♦พัฒนาการของเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษา
ยุคที่1 การประมวลผลข้อมูล มีวัถุประสงค์เพื่อการคำนวณและการประมวลผลข้อมูลของรายการประจำ(Transacation Porcessing) เพื่อลดค่าใช้จ่าย
♦ยุคที2 ระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการ มีการใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการตัดสินใจ ควบคุม ดำเนินการ ติดตามผลและวิเคราะห์ผลงานของผู้บริหารระดับต่างๆ
♦ยุคที่3 การจักการทรัพยากรสารสนเทศ มีการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อเรียกใช้สารสนเทศที่จะช่วยในการตัดสินใจนำหน่วยไปสู่ความสำเร็จ
♦ยุคที่ 4 ยุคปัจจุบัน หรือยุคเทคโนโลยีสารสนเทศ มีการใช้ระบบคอมพิวเตอร์และระบบการสื่อสารโทรคมนาคมเป็นเครื่องมือช่วยในการจัดทำระบบสารสนเทศ และเน้นความคิดของการให้บริการสารสนเทศแก่ผู้ใช้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นวัตถุประสงค์สำคัญ
♦ประโยชน์ของเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษา
1.ให้ความทำให้เกิดความคิดและความเข้าใจ
2.ใช้ในการวางแผนการบริหารงาน
3.ใช้ประกอบการตัดสินใจ
4.ใช้ในการควบคุมสถาณะการ
5.เพื่อให้การบริหารงานมีระบบ
♦สรุป
การนำเอาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ประโยชน์วงการศึกษามีปริมาณที่เพิ่มากขึ้นเนื่องการแพร่กระจายอย่างรวดเร็วอุปกรร์เทคโนโลย๊สารสนเทศประเภทต่างๆ เช่น ดาวเทียมสื่อสาร ใยแก้วนำแสง อินเตอร์เน็ตก่อให้เกิดระบบคอมพิวเตอร์สำหรับการบริหารงานในการศึกษาด้านต่างๆ เช่น ระบบบริหาร จัดการห้องสมุดและระบบคอมพิวเตอร์เพื่อสนับสนุนเพื่อการเรียนการสอนเช่นระบบคอมพิวเตอร์ช่วยสอนการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษายังช่วยให้เกิดการลดความเลื่อมล้ำของโอกาศทางการศึกษาการเป็นเครื่องมือในการพัฒนาคุณภาพทางการศึกษาพัฒนาบุคลากรทงการศึกษาให้มีความรู้ทางด้านเทคโนโลยี

วันพุธที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

assignment 1

1.)   จงอธิบายความหมายของคำต่อไปนี้ตามความาเข้าใจของนักศึกาาเอง
♦  เทคโนโลยี (Technology) หมายถึง สิ่งการเรียนรู้อิเล็คโทนิกที่มนุษย์สร้างขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวก
♦  เทคโนดลยีสารสนเทศ (Information Technology)  หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับอิเล็คโทนิกต่างๆ
♦  เทคโนโลยีการสื่อสาร (Communication Technology)  หมายถึง การสื่อสารต่างๆที่ใช้เครื่องมืออิเล็คโทนิก



2.)    จงอธิบายความคาดหวังในการเรียนวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารสำหรับครูว่านักศึกษาจะได้เรียนรู้อะไรบ้าง และนักศึกษาคาดว่าจะได้ทำสิ่งใดบ้าง
   
 ♦  สิ่งที่คาดว่าจะได้เรียนรู้
                   1. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศได้
                   2. มีความสามารถด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
   
♦  สิ่งที่คาดว่าจะได้ทำ
                   1. ใช้โปรแกรมสารสนเทศได้
                   2. นำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้